สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับฟิล์มหด ฟิล์มหดที่ดีลักษณะเป็นอย่างไร เลือกฟิล์มหดที่เหมาะสมกับคุณอย่างไร ฟิล์มหดโรงงานไหนดีที่สุด ทุกเรื่องเกี่ยวกับฟิล์มหด เอซ แพคเกจจิ้ง รวบรวมมาให้คุณแล้ว สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาโรงงานฟิล์มหดในประเทศไทย เพื่อคุณจะได้มีความเข้าใจและเลือกโรงงานฟิล์มหด ได้ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด
“ฟิล์มหด ปฏิรูปวงการแพคเกจจิ้ง”
ในสมัยก่อนเราจะเห็นภาพของขวดน้ำพลาสติกแพ็คโหลถูกห่อหุ้มด้วยลังกระดาษ บางครั้งการเสียดสีจากการขนส่งหรือฝนตกก็ทำให้ลังกระดาษขาดได้ง่ายเช่นกัน มากไปกว่านั้นอาจทำให้สินค้าภายในชำรุดเสียหายได้ เช่นเดียวกับขวดแก้วน้ำอัดลมจะถูกห่อหุ้มด้วยลังพลาสติกแบบหนา ซึ่งสิ้นเปลืองพื้นที่การขนส่งเป็นอย่างมาก นวัตกรรมฟิล์มหดจึงเข้ามาแทนที่เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าง่ายขึ้น ป้องกันสินค้าได้ดีขึ้น สามารถลดช่องว่างในการขนส่งเนื่องจากแผ่นฟิล์มหดนั้นมีความบางกว่ากระดาษเป็นหลายสิบเท่า แต่มีความแข็งแรงกว่าหลายสิบเท่าเช่นกัน และ ประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของฟิล์มหด PE ได้ที่นี่ »»สารบัญ
- ฟิล์มหดคืออะไร
- ประเภทของฟิล์มหด
- ฟิล์มหด PE (LDPE, MDPE, HDPE, LLDPE)
- ฟิล์มหด PVC
- ฟิล์มหด POF
- ตารางเปรียบเทียบพลาสติกประเภท PE (LDPE, MDPE, HDPE, LLDPE)
- ตารางเปรียบเทียบฟิลม์หดประเภทต่างๆ (PE, PVC, POF)
- สัญลักษณ์พลาสติกชนิดต่างๆ
- ประโยชน์ของฟิล์มหด
- ราคาฟิล์มหด
- การผลิตฟิล์มหด
- การดูแลรักษาฟิล์มหด
- การนำฟิล์มหดไปแพ็คสินค้า
- การเลือกฟิล์มหดให้เหมาะกับสินค้า
- ฟิล์มหดที่ดีทีสุด หรือ ฟิล์มหดที่เหมาะกับคุณที่สุด
- การเลือกโรงงานฟิล์มหด
- อนาคตฟิล์มหด
ฟิล์มหดคืออะไร
ฟิล์มหด คือ พลาสติกที่ได้รับการหลอมละลายด้วยความร้อน แล้วได้รับการเป่าขึ้นรูปให้มีลักษณะบางคล้ายฟิล์ม หากแผ่นฟิล์มพลาสติกนี้ได้รับความร้อน ณ อุณหภูมิหนึ่งที่ถูกกำหนดไว้ก็จะทำให้ฟิล์มนี้มีการหดตัวเราจึงเรียกว่า ฟิล์มหด การสร้างฟิล์มหดที่ดีควรเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนของสูตรฟิล์มหด ผู้เชี่ยวชาญหรือนักวิศวกรรมเคมีจะทำการทดสอบอัตราส่วนของเม็ดพลาสติกแต่ละประเภท กับเครื่องจักรที่โรงงานมี กับสินค้าและเครื่องแพ็คสินค้า เพื่อให้ได้ฟิล์มหดหลากหลายสูตร เพื่อให้เหมาะสมที่สุดกับลูกค้าที่ต้องการนำไปใช้ การเป่าฟิล์มหดก้มีส่วนสำคัญซึ่งหากเครื่องเป่ามีคุณภาพสูงสามารถเป่าฟิล์มหดออกมามีความหนาบาง ความใสตามที่ต้องการ
ประเภทของฟิล์มหด
เราจะแบ่งฟิล์มหดออกเป็น 3 ประเภท โดยอ้างอิงจากวัตถุดิบที่แตกต่างกัน
- โพลิเอทิลีน (Polyethylene) หรือ PE
- พอลิไวนิลคลอไรด์ Polyvinyl Chloride (PVC)
- โพลีโอเลฟิน Polyolefin (POF)
โดยฟิล์มหดแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ เช่น สี ความใส ความหนา ความเหนียว ความแข็งแรง อุณหภูมิการหด และประโยชน์การใช้งานแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ผู้ผลิตและผู้นำไปใช้แพ็คสินค้าจำเป็นต้องทดสอบฟิล์มตัวอย่างกับเครื่องแพ็คสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าฟิล์มหดที่ผลิตออกมาได้ผลตามที่ต้องการ
1. ฟิล์มหด PE
พลาสติก PE นั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ LDPE, MDPE, HDPE และ LLDPE โดยส่วนใหญ่เม็ดพลาสติกประเภท LDPE และ LLDPE จะถูกผลิตเป็นฟิล์มหด PE ส่วน MDPE และ HDPE มักจะถูกแปรรูปไปเป็นสินค้าอื่นแทน
ฟิล์มหดจากพลาสติกโพลิเอทิลีน (Polyethylene) หรือที่เรียกกันในอุตสาหกรรมแพคเกจจิ้งว่า PE สูตรทางเคมีคือ (C2H4)n. โดยมีคุณสมบัติหลักคือ เบา เหนียว ทนทาน มีความยืดตัวสูง ฉีกขาดยาก และสามารถรีไซเคิลได้ จุดเด่นของ PE คือสามารถผลิตออกมาเป็นฟิล์มได้ด้วยความหนาถึง 300 ไมครอน ซึ่งความหนาของฟิล์ม PVC และ POF สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 25 ไมครอนเท่านั้น ฟิล์มหด PE จึงสามารถรับน้ำหนักได้ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ PVC และ POF อย่างไรก้ตามเนื่องจากมีความหนาที่มากกว่า ฟิล์มหด PE จึงมีความใสน้อยกว่า และ มีอัตราการหดตัวที่น้อยกว่าเฉลี่ยโดยประมาณ 25 %
1.1) LDPE (Low-density polyethylene) หรือ โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ
มีความหนาแน่นอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.91 – 0.94 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร LDPE จุดหลอมเหลว: 105 – 115 ° C ทนต่อแอลกอฮอล์ด่างและกรดเจือจางได้ดี ทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 80 – 95 ° C เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม สามารถดูดซึมน้ำต่ำมาก เป็นไปตามมาตรฐาน FDA ส่วนมากจะได้รับการแปรรูปเป็น ฟิล์มหด ฟิล์มบางโปร่งใส ถุงพลาสติก และ ขวดพลาสติก
1.2) MDPE (Medium-density polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นปานกลาง
มีความหนาแน่นอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.94 – 0.95 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร จึงมีความแข็งแรงและ สามารถทนต่อตัวทำละลายส่วนใหญ่ ทนต่อด่างเจือจางและกรดแอลกอฮอล์ได้มากกว่า LDPE แต่น้อยกว่า HDPE เป็นไปตามมาตรฐาน FDA ส่วนมากจะได้รับการแปรรูปเป็น แก้วพลาสติก
1.3) HDPE (High-density polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง
มีความหนาแน่นอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.95 – 0.97 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร HDPE มีจุดหลอมเหลว: 120-140 ° C ความหนาแน่นสูง ความต้านทานต่อสารเคมีสูง สามารถทนต่อตัวทำละลายส่วนใหญ่ ทนต่อด่างเจือจางและกรดแอลกอฮอล์ได้ในระดับที่ดีเยี่ยม ทนต่อน้ำมันและจาระบีได้ในระดับปานกลาง ความต้านทานแรงดึงที่สูงกว่า LDPE และ MDPE เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี การดูดซึมน้ำต่ำมาก ได้รับมาตรฐาน FDA และ USDA/FDA ที่พิเศษกว่าคือสามารถสัมผัสอาหารได้ HDPE ใช้ทำแกลลอนนม ถังน้ำมันรถ กล่องน้ำแข็งเก็บความเย็น ท่อน้ำ เอ็นตกปลา เชือก สายเคเบิ้ล เป็นต้น HDPE ทุกๆโมเลกุลเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนากว่า แข็งแรงกว่า แข็งกว่า และโปร่งแสงน้อยกว่าโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ MDPE และ LDPE
1.4) LLDPE (Linear Low Density Polyethylene) โพลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น
มีโครงสร้างคล้ายกับ LDPE หากแตกต่างกันที่โครงสร้างของ LLDPE มีกิ่งก้านสั้นสม่ำเสมอและพันกัน ไม่เหมือนกิ่งก้าน LDPE ที่ยาวกว่าและไม่พันกัน มีการใช้ LLDPE ทดแทน LDPE อย่างแพร่หลาย เนื่องจากหาก LLDPE และ LDPE มีความหนาที่เท่ากัน LLDPE จะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าพร้อมรับแรงกระแทกที่สูงกว่า LDPE สีน้ำนมโปร่งแสงและเป็นธรรมชาติ ทนต่อรอยแตกแรงกระแทกสารเคมีได้ดี ป้องกันไอน้ำและแอลกอฮอล์ได้ดี ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยใช้รวมกับพลาสติกประเภทอื่นเช่น PET และ ถุงขยะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐาน FDA ได้ที่นี่ »»2. ฟิล์มหด PVC
เป็นฟิล์มหดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีความเบาและราคาถูก สามารถใช้งานได้หลายประเภท อย่างไรก้ตามปัจจุบันได้รับความนิยมลดน้อยลง อันเนื่องมาจากความไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสารก่อมะเร็งไม่ควรนำมาห่ออาหาร บางประเทศไม่ยอมรับการหุ้มด้วยฟิล์มหด PVC เลย อีกทั้งเมื่อโดยความร้อนจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น จุดเด่นของ PVC คือมีคุณสมบัติใส หดตัวสูง แต่มีความเปราะ ฉีกขาดง่าย เมื่อเปรียบเทียบกับ PE สามารถหุ้มสินค้าได้หลากหลายรูปแบบหลายรูปทรงเนื่องจากมีความสามารถในการหดตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเดี่ยว จนไปถึงสินค้าแพ็คโหล มีทิศทางการหดในทิศทางเดียว มีหลายเกรดราคาต่ำจนไปถึงสูง หาซื้อได้ง่าย ข้อควรระวังอีกข้อคือหากฟิล์ม PVC เจออุณหภูมิที่สูงหรือร้อนเกินไปจะเกิดการย่นของฟิล์ม หากเจออากาศเย็นเกินไปจะเกิดการเปราะหรือแตกได้ง่าย
3. ฟิล์มหด POF
ฟิล์มที่มีคุณภาพสูงที่สุดหากเทียบกับ PE และ PVC มีลักษณะบาง มีความใสและเงามาก เหนียว ทนทานแม้อุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความนุ่มกว่า อ่อนตัวมากกว่า และมีความบางมากกว่าฟิล์มหด PVC และ PE เมื่อนำมาใช้งาน ตะเข็บฟิล์ม จะเป็นรอยตะเข็บที่เล็กมาก และไม่รู้สึกบาดมือเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ หาซื้อค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับฟิล์มหดชนิดอื่นๆ ราคาค่อนข้างสูง ขั้นตอนวิธีการแพ็คสินค้าด้วยเครื่องจักรจะมีความยุ่งยากกว่าฟิล์มหด แบบ PVC (ฟิล์มหด PVC สามารถสวมฟิล์มแล้วทำการหดได้เลย) เป็นไปตามมาตรฐาน FDA ได้รับการยอมรับและสามารถส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆได้ทั่วโลกเพราะเป็น Food grade และสามารถรีไซเคิลได้ 100% ข้อดีอีกหนึ่งข้อคือไม่มีกลิ่น ไม่เป็นพิษต่อผู้ใช้
ตารางเปรียบเทียบพลาสติก PE (LDPE, MDPE, HDPE, LLDPE)
|
LDPE |
MDPE |
HDPE |
LLDPE |
ความหนาแน่น |
ต่ำ |
กลาง |
สูง |
ต่ำ |
คุณสมบัติ |
มีความทนทานและเหนียวและยืดหยุ่น ทนต่อแอลกอฮอล์ด่างและกรดเจือจางได้ดี ทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 95 ° C ดูดซึมน้ำต่ำมาก |
มีความทนทานและเหนียวมากกว่า LDPE แต่น้อยกว่า HDPE
|
มีความทนทานและเหนียวสูงกว่า LDPE และ MDPE
|
มักเป็นส่วนประกอบกับพลาสติกชนิดอื่น มีความทนทาน เหนียวและยืดหยุ่นสูงเมื่อใช้กับพลาสติกประเภทอื่น
|
รูปแบบ |
ฟิล์มหด ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก
|
แก้วพลาสติก
|
แกลลอนนม ถังน้ำมันรถ กล่องน้ำแข็งเก็บความเย็น ท่อน้ำ เอ็นตกปลา เชือก สายเคเบิ้ล |
ใช้ผลิตแผ่นฟิล์มสำหรับผบรรจุภัณฑ์อาหาร หรือ ทำเป็นถุงขยะ |
ตารางเปรียบเทียบฟิลม์หดประเภทต่างๆ (PE, PVC, POF)
|
PE |
PVC |
POF |
คุณสมบัติ |
มีความใสปานกลาง หนากว่า PVC และ POF เบา เหนียว ทนทาน มีความยืดตัวสูง ฉีกขาดยาก |
มีความใส และหดตัวสูงกว่า PE แต่มีความเปราะ ฉีกขาดง่ายกว่า PE และ POF |
มีความใส บาง เหนียว มีความนุ่ม ฉีกขาดยาก และ อ่อนตัวมากที่สุด เมื่อเทียบกับ PE และ PVC |
รูปแบบ |
ฟิล์มแพ็คโหลขวดน้ำดื่ม มักใช้กับของที่มีน้ำหนัก เนื่องจากฟิล์มหดมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี |
ใช้กับสินค้าชื้นเดียว กล่องเครื่องสำอาง หรือ สินค้าแพ็คโหลที่มีน้ำหนักเบา ข้อเสียคือจะมีตะเข็บหลังจากฟิล์มหดตัว |
เป็นฟิล์มด้านในที่สัมผัสอาหาร เพราะเป็น Food grade หรือใช้กับสินค้าแบรนด์เนมชิ้นเดียว ราคาสูง เพราะมีตะเข็บน้อยกว่า PVC เช่น กล่องน้ำหอมแบรนด์เนม |
สัญลักษณ์ของพลาสติกชนิดต่างๆ
ประโยชน์ของฟิล์มหด
ประโยชน์ของฟิล์มหดนั้นมีมากมายหลายข้อ อาทิเช่น ช่วยให้แพ็คสินค้าสะดวกสบาย ลดช่องว่างระหว่างสินค้า ทำให้แพ็คสินค้าได้ปริมาณที่มากขึ้นต่อครั้ง ลดต้นทุนค่าขนส่ง ช่วยป้องกันฝุ่นละออง สิ่งสกปรก แสงแดด อุณหภูมิสูงและความชื้นต่างๆ ลดการปลอมแปลงสินค้า ที่สำคัญช่วยในการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขาย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของฟิล์มหด PE ได้ที่นี่ »»ราคาของฟิล์มหด
ราคาของฟิล์มหดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลักสำคัญคือความต้องการซื้อและความต้องการขายในตลาด โดยปกติแล้วหากความต้องการซื้อมากกว่าความต้องการขาย ราคาก้จะปรับตัวสูงขึ้นจนความต้องการขายเท่ากับความต้องการซื้อ อย่างไรก็ตามโลกความเป็นจริงนั้นซับซ้อนกว่านั้น เราจะเห็นสถานการณ์ที่เม็ดพลาสติกราคาต่ำแต่ไม่มีสินค้า เช่นการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศทำให้ไม่มีความต้องการซื้อและขาย เม็ดพลาสติกราคาสูงแต่สินค้าล้นตลาด เช่น ผู้ขายเม็ดพลาสติกรายใหญ่ได้ทำการกักตุนซื้อเม็ดพลาสติกไว้ล่วงหน้าเนื่องจากทราบข่าวว่าเกิดปัญหาเรือขนส่งน้ำมันล่าช้า ซึ่งหากดูผิวเผินอาจไม่ถูกต้องตามทฤษฎี supply-demand แต่เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแต่เกิดขึ้นจริง
อีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่สำคัญในการคาดคะเนราคาของฟิล์มหดคือ ราคาน้ำมันโลก ซึ่งพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งจากการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมัน กลุ่ม OPEC (Organization of the Petroleum Exporting Countries) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก 13 ประเทศมีผลต่อราคาพลาสติกเป็นอย่างมาก ในบางครั้งเราจะเห็นการปิดโรงกลั่นน้ำมันจากกลุ่มนี้ ซึ่งส่งผลให้จำนวนน้ำมันในตลาดน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ราคาเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนและวัตถุดิบหลักของการผลิตฟิล์มหด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการผันผวนของราคาเกิดขึ้นเสมอ ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทนี้จึงจำเป็นต้องมีความรู้และความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดเพื่อซื้อเม็ดพลาสติกในราคาที่เหมาะสม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาน้ำมันโลกได้ที่นี่ »» อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่ม OPEC ได้ที่นี่ »»การผลิตฟิล์มหด
ขั้นตอนการผลิตฟิล์มหดของแต่ละโรงงานจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากปัจจัยที่ต่างกัน เช่น สูตรวัตถุดิบ เครื่องจักร ความเชี่ยวชาญของทีมงาน ขั้นตอนหลักในการผลิตคือการผสมสูตรเม็ดพลาสติก เป่าฟิล์ม และ ม้วนฟิล์มเข้าแกน ในบางโรงงานจำเป็นที่จะต้องมีทีมงานควบคุมทุกๆขั้นตอนเพื่อตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจักร และผลลัพธ์แต่ละขั้นตอน
เอซ แพคเกจจิ้ง เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านฟิล์มหด PE และต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เราจึงเลือกลงทุนในเทคโนโลยีและเครื่องจักรจากประเทศเยอรมัน และ ซื้อเม็ดพลาสติกคุณภาพ แม้ว่าต้นทุนอาจจะสูงกว่าเครื่องจักรจากประเทศอื่น แต่ผลลัพธ์คุณภาพของฟิล์มหดที่ดีและสม่ำเสมอจะให้ผลตอบแทนในระยะยาว ที่สำคัญที่สุดเป็นผลดีกับลูกค้าและเป็นเครื่องการันตีด้านคุณภาพฟิล์มหดของเราได้เป็นอย่างดี มากไปกว่านั้นโรงงานของเราได้รับการตรวจสอบคุณภาพการผลิต ISO 9001:2015 อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ISO ได้ที่นี่ »»การดูแลรักษาฟิล์มหด
เทคนิคการเก็บรักษาฟิล์มหดคือควรหลีกเลี่ยง แสงแดด ความชื้น อุณหภูมิที่สูง และเก็บให้ห่างจากวัสดุที่ติดไฟง่าย เนื่องจากพลาสติกสามารถติดไฟได้ง่าย โดยทั่วไปฟิล์มหดจะมีอายุการใช้งาน 1 ปี มากไปกว่านั้นควรเก็บฟิล์มหดให้เป็นระบบเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการขนย้ายและจัดส่งให้ลูกค้า หรือคราวเช็คสต๊อกสินค้า
การนำฟิล์มหดไปแพ็คสินค้า
สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนสั่งซื้อฟิล์มหดกับโรงงานฟิล์มหดที่คุณเลือกคือ การทดสอบฟิล์มหดตัวอย่างกับสินค้า กับเครื่องแพ็คสินค้าของลูกค้า (ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องอบหรือเครื่องเป่าลมร้อน เมื่อฟิล์มโดนความร้อนจะเกิดการหดตัวและห่อหุ้มสินค้า) และควรจดบันทึกการตั้งค่าของเครื่องจักรแพ็คสินค้า เช่น อุณหภูมิ ความเร็ว
หลังจากทดสอบผ่านแล้วจึงเริ่มการสั่งฟิล์มหดอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้หลังจากรับฟิล์มหดจากโรงงานควรตรวจสอบฟิล์มหดว่าตรงตามคุณลักษณะตามที่ลูกค้าได้สั่งแล้วหรือไม่ หากตรงตามที่ตกลงกันไว้ก้ให้เริ่มทำการทดสอบม้วนฟิล์มหดกับสินค้าจริง โดยตั้งค่าเครื่องแพ็คสินค้าให้ตรงกับค่าการทดสอบเริ่มต้น หากเกิดปัญหาขัดข้องควรติดต่อโรงงานฟิล์มหดหรือผู้ขายเครื่องแพ็คสินค้าเพื่อขอคำแนะนำ โรงงานผลิตฟิล์มหดที่ดีควรมีบริการดูแลหลังการขาย ซึ่งเอซ แพคเกจจิ้งเราให้ความสำคัญกับการบริการด้วยหัวใจหรือ Service Mind เป็นอย่างมาก
คลิกที่นี่เพื่อสอบถามสินค้าหรือปรึกษาปัญหากับเรา »»การเลือกฟิล์มหดให้เหมาะกับสินค้า
ขั้นตอนแรกเราแนะนำให้หาข้อมูลตามท้องตลาด ซุปเปอร์มาเก็ต โดยให้เลือกสินค้าประเภทเดียวกันหรือแบรนด์คู่แข่ง สังเกตเพื่อให้เห็นและสัมผัสฟิล์มหดประเภทต่างๆบนสินค้าต่างๆ โดยหลักๆแล้วมีสามปัจจัยสำคัญคือ คุณสมบัติ ความสวยงาม และ ราคา ขั้นตอนที่สองคือการเลือกวัตถุดิบของฟิล์มหดว่าเป็น PE PVC หรือ POF
โดยทางเอซ แพคเกจจิ้งจะช่วยให้คำแนะนำได้ครบทั่งสามปัจจัย ตัวอย่างเช่น ควรเลือกความหนาของฟิล์มหดและหน้ากว้างที่เหมาะสม หากเลือกความหนาหรือความกว้างเกินตํ่าไปก้จะส่งผลให้ฟิล์มหดไม่แข็งแรง หากความกว้างมากเกินไปก้จะเกิดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ท้ายที่สุดแล้วภาระค่าใช้จ่ายจะตกอยุ่กับลูกค้า การเลือกโรงงานที่มีความจริงใจและซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากสินค้าที่ดี มีคุณภาพที่สม่ำสมอ ราคาเป็นกันเองแล้ว คุณยังได้มิตรภาพอันยั่งยืนเหมือนกับวิสัยทัศน์บริษัทของเรา
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่นี่ »»ฟิล์มหดที่ดีที่สุด หรือ ฟิล์มหดที่เหมาะกับคุณที่สุด
ควรเลือกฟิล์มหดที่เหมาะกับคุณ ฟิล์มหดที่คุณภาพดีที่สุดอาจจะไม่ใช่ฟิล์มหดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เนื่องจากราคาที่สูง เราจึงควรมองหาฟิล์มหดที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณสมบัติการใช้งาน เช่น ความแข็งแรง ความสวยงาม เช่น ความใสซึ่งสามารถทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และ ราคาที่สมเหตุสมผล
คลิกที่นี่เพื่อสอบถามสินค้าหรือปรึกษาปัญหากับเรา »»การเลือกโรงงานฟิล์มหด
ควรเริ่มต้นด้วยการถามคู่ค้าที่มีประสบการณ์การซื้อขายฟิล์มหดหรืออยู่ในอุตสาหกรรมนี้ว่าเขาใช้ฟิล์มหดของโรงงานไหน คุณภาพสินค้าดีหรือไม่ บริการหลังการขายประทับใจหรือไม่ การจัดส่งสะดวกรวดเร็วไหม และ ราคาเหมาะสมไหม หากสามารถอ้างอิงข้อมูลนี้ได้ จะทำให้เรามีเกณฑ์การเปรียบเทียบ หากไม่มีข้อมูลอ้างอิงเลย ขอแนะนำให้เปรียบเทียบ 2-3 โรงงาน โดยนำสินค้าตัวอย่างมาทดสอบ ทุกโรงงานจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน เอซ แพคเกจจิ้ง ยินดีให้คำปรึกษาให้คุณใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ หากคุณสนใจในฟิล์มหด PE ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของคุณ เรารับรองว่าคุณจะต้องประทับใจในคุณภาพสินค้าและบริการของเราอย่างแน่นอน
คลิกที่นี่เพื่อปรึกษาเรา »»อนาคตของฟิล์มหด
แน่นอนที่สุดอนาคตของฟิล์มหดยังคงสดใสและมีการเติมโตขึ้นทุกปี ปัจจุบันฟิล์มหดยังเป็นที่ต้องการมากในท้องตลาดเนื่องจากประโยชน์ที่ได้กล่าวมาแล้วในเบื้องต้น หากแต่ทางองค์กรสิ่งแวดล้อมและบางประเทศได้มีการตั้งกฎหมายขึ้นเพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติก ซึ่งเอซ แพคเกจจิ้งเล็งเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
นอกเหนือจากการผลิตฟิล์มหดด้วยเม็ดพลาสติกใหม่ 100% (VIRGIN) ทางบริษัทเรามีตัวเลือกให้กับลูกค้าคือ การผลิตฟิล์มหดจากพลาสติกรีไซเคิลซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1) รีไซเคิลพลาสติกในโรงงาน (PIR) 2) รีไซเคิลพลาสติกจากสินค้าอุปโภคบริโภค (PCR)โดยเรามีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ช่วยจัดหาพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพดีให้กับโรงงานของเรา
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิล์มหดของเราได้ที่นี่ »»